เรื่องของนวัตกรรมทุกวันนี้มีความก้าวหน้าไปไกลมากเลยทีเดียว มนุษย์สามารถคิดค้นเครื่องมือต่างๆ มาใช้ในการดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะใช้ในเรื่องของการทำงาน อย่างเทคโนโลยีอุตสาหกรรม หรือในเรื่องของเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร อย่างเช่นคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน โทรทัศน์แบบดิจิตอลเป็นต้น และในวันนี้เราก็จะมาพูดถึงเรื่องโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ของ Samsung Galaxy ที่ได้ออกมาให้คนเราได้ใช้กันอีกแล้วถึง 3 รุ่นด้วยกันไม่ว่าจะเป็น S20 | S20+ | S20 Ultra ลองไปดูกันดีกว่าว่าความพิเศษของทั้ง 3 รุ่นนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง
กล้อง
ในส่วนของกล้องนั้นก็ต้องบอกเลยว่าเป็นส่วนใช้งานที่สามารถช่วยในการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้เป็นอย่างดี ท่านทราบหรือไม่ว่ากล้องโทรศัพท์มือถือในสมัยนี้สามารถใช้ในการทำงานได้ไม่ต่างกับกล้องโปรแล้วด้วย เช่นเดียวกันกับกล้องของ Samsung Galaxy S20 , S20+ และ S20 Ultra ที่มีความละเอียดสูงระดับมืออาชีพถึง 108 Mp ในส่วนของด้านการซูม Space Zoom ก็สามารถที่จะซูมแบบละเอียดถึง 100 เท่า เรียกได้ว่าเห็นยันรูขุมขนกันไปเลย โหมดถ่าย Video ก็ไม่แพ้กัน มีการถ่าย Video ระดับพรีเมี่ยมครั้งแรกในมือถือสมาร์ทโฟนที่มีการรองรับการทำงานในโหมดนี้ถึงระดับ 8K พร้อมด้วยสเปคที่ครบคันจัดกันไปแบบเต็มๆ
ตัวเครื่อง
ต่อกันเลยที่รูปแบบการดีไซตน์ของตัวเครื่องที่มีเอกลักษณ์สวยงามโค้งมน จัดวางตำแหน่งมือถือได้ดี ในส่วนของกล้องหน้า – กล้องหลัง รวมถึงโมดูลกล้องก็ออกแบบมาได้ดีมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม สามารถจับได้ถนัดมือไม่ดูใหญ่เทอะทะหรือเล็กมากจนเกินไป
จอแสดงผล
ในส่วนของจอการแสดงผลกับ Galaxy S20 Series ทั้ง 3 รุ่นนี้ มีรูปแบบเป็น Dynamic AMOLED ที่มีความละเอียดแสดงผลแบบ FHD+ และที่สำคัญจะมีรอยเจาะที่วางตำแหน่งไว้ตรงบริเวณกล้องหน้าอยู่ตรงกลางจอ ทั้ง 3 รุ่นเลยทีเดียว แบ่งออกเป็น Galaxy S20 ขนาดอยู่ที่ 6.2 นิ้ว , Galaxy S20+ ขนาดอยู่ที่ 6.7 นิ้ว และ Galaxy S20 Ultra มีขนาดอยู่ที่ 6.9 นิ้ว ตามลำดับ แค่นั้นยังไม่พอ Galaxy S20 Series ยังสามารถรองรับ Refresh Rate 120Hz ได้อีกด้วย ในส่วนบนของหน้าจอโทรศัพท์มือถือนั้น Galaxy S20 และ Galaxy S20+ สามารถรองรับความละเอียดได้ถึง 10 ล้านพิกเซล ส่วน Galaxy S20 Ultra เรียกได้ว่ามีความละเอียดแบบสูงสุดถึง 40 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ต่อกันเลยที่ส่วนล่างมีการควบคุมแบบปุ่ม ซอฟแวร์ระบบ จุดเด่นของส่วนล่างนั้นก็คือจะบางมากจึงทำให้หน้าจอดูกว้างขึ้นด้วย มาต่อกันเลยสำหรับส่วนของตัวเครื่อง จะมีช่องในการใส่ซิมการ์ดอยู่ทางซ้ายของเครื่อง และยังสามารถใส่ซิมการ์ดนาโนได้ถึง 2 ซิมด้วยกัน มีช่องของ MicroSD ที่สามารถเพิ่มความจุแบบสูงสุดได้สูงถึง 1TB เลยทีเดียว ขยับทางซ้ายมาอีกนิดจะเป็นไมโครโฟนตัวที่ 2 มีความสามารถในการตัดเสียง ส่วนตัวเครื่องบริเวณด้านล่างนั้น เป็นพอร์ตที่สามารถเชื่อมต่อกับ USB ได้ ตรงกลางจะเป็น Type C บริเวณส่วนด้านขวาจะเป็นตัวลำโพงนั่นเอง ส่วนทางซ้ายมือจะเป็น ไมโครโฟน ด้านขวาข้างเครื่องจะเป็นตัวเพิ่มเสียงและลดเสียง ถัดลงมาด้านล่างก็จะเป็นปุ่มที่เอาไว้เปิดและปิดเครื่อง รวมไปถึงการล็อคหน้าจอ ส่วยรายละเอียดกล้องหลังนั้นจะเป็น Galaxy S20 จะมี 3 เลนส์ แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล 12 ล้านพิกเซล 64 ล้านพิกเซล , Galaxy S20+ จะมี 3 เลนส์ แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล 12 ล้านพิกเซล 64 ล้านพิกเซล และจะมีเลน Tof เข้ามาเสริม , Galaxy S20 Ultra จะมี 3 เลนส์ แบ่งเป็น 12 ล้านพิกเซล 108 ล้านพิกเซล 48 ล้านพิกเซล และเลนส์ Tof เช่นเดียวกับ Galaxy S20+ นั่นเอง และแน่นอนจุดเด่นของทั้ง 3 รุ่นนี้คือกล้อง ตามรายละเอียดอย่างที่กล่าวไป รวมถึงขนาดความจุในการถ่าย Video ได้ถึง 8k อีกด้วย